ฆ่าโหด หมกใต้ถุนบ้าน พี่น้องและญาติสงสัยหนุ่มใหญ่ที่เข้ามาติดพัน และชอบขอเงิน ล่าสุดตำรวจได้เชิญ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งไปสอบปากคำหลายชั่วโมง แต่เจ้าตัวปฏิเสธ เตรียมแกะรอยจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งคาดปมสังหารมาจากปมหึงหวงจนเกิดโทสะได้ลงมืออย่างโหดเหี้ยม
ขณะที่ผู้เสียชีวิตบอกเป็นนัยถ้าตายไปก็ผู้ชายคนนี้แหละ จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 พบศพ น.ส.บุญเรือน โค้วปรีชา อายุ 49 ปี สภาพกกหูซ้ายถูกของแข็งฟาดจนกะโหลกศีรษะแตก และคอด้านหลังถูกฟาดจนยุบ ใบหน้าเละไม่มีเค้าโครงร่างเดิม ช่วงบริเวณแก้มซ้ายเป็นแผลกรามหัก ถูกหมกอยู่ช่องใต้ถุนบ้าน

ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บ้านเลขที่ 7/3 ม.6 ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เป็นบ้านของผู้เสียชีวิต ที่เปิดเป็นแปลงเรียนรู้เกษตรต้นแบบ โดยพบพี่ชายและพี่สาวผู้เสียชีวิต ตลอดจนเพื่อนสนิท และเพื่อนบ้าน ยังคงมีการจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบริเวณโดยรอบบ้าน พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน ซึ่งมีชุดโต๊ะไม้ที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุลงมือ โดยพบหมวกที่ผู้ตายใส่เป็นประจำวางอยู่บนโต๊ะ นอกจากนี้บนโต๊ะยังพบรองเท้าสตั๊ดและรองเท้าหนังสีดำของผู้ชายวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับถ้วยรางวัลกีฬาฟุตบอลเชื่อมสัมพันธ์ของหน่วยงานด้านการศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นางจินดาพร โค้วปรีชา อายุ 49 ปี พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิต ที่พบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า ตนและสามีซึ่งเป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต รู้สึกผิดสังเกตว่าพยายามโทรหาผู้ตายเมื่อวานนี้แต่ติดต่อไม่ได้ มีการปิดเครื่องฝากหมายเลขโทรกลับ ทางพี่ชายจึงออกมาหาน้องสาวที่บ้านที่เกิดเหตุ พยายามค้นหาในบ้านไม่เจอจึงโทรตามให้ตนมาช่วยหา
ซึ่งพยายามค้นหาในบ้านแต่ไม่พบผู้เสียชีวิต ทางพี่ชายอีกคนที่มาช่วยหาจึงบอกให้ไปหาบริเวณโดยรอบบ้าน โดยเปิดบริเวณช่องใต้ถุนบ้านก็พบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางสุทธาสินี แก้วมณีโชติ อายุ 59 ปี พี่สาวแท้ๆ ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ทราบว่าตำรวจได้เรียกผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งผู้ชายคนนี้มักจะเข้าออกบ้านน้องสาว (ผู้เสียชีวิต) บ่อยๆ แต่ตนไม่เคยพูดคุย เคยแค่เห็นผ่านๆ ซึ่งผู้ชายคนนี้มักทำตัวแปลก เวลามาที่บ้านน้องสาวหากเห็นมีคนอยู่ หรือมีญาติพี่น้องมาหา ก็มักจะไม่ลงจากรถ ซึ่งจะเห็นก็แค่ตอนขับรถผ่านหน้าบ้านเรา
น้องสาวมักมาเล่าให้ทางพี่ๆ ฟังว่า ผู้ชายคนนี้มักชอบมาเอาเงิน มาขอเงินเพราะทางฝ่ายชายมีหนี้สินเยอะ เคยมาบ่นให้ทางญาติๆ ฟังว่าถ้าตนตายไปก็ผู้ชายคนนี้นี่แหละ ซึ่งก็คาดว่าสาเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดจากเรื่องเงินนี่แหละ เพราะน้องสาวตนก็ค่อนข้างมีเงิน มีที่ เเละมีวัว

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ทับสะแก เป็นโรงเรียนสังกัด สพป.1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปสอบปากคำเครียดนานหลายชั่วโมงเนื่องจากเจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจเกี่ยวพันกับสาเหตุการตาย แต่ผู้อำนวยการให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รอตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องทั้งพยานวัตถุที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สามารถระบุได้ว่าก่อนเกิดเหตุ มีบุคคลใดขับยานพาหนะไปบ้านที่เกิดเหตุ ติดตามการใช้โทรศัพท์ของผู้ตายที่สูญหายหลังจากพบศพ เพื่อดูความเชื่อมโยงกับบุคคลต้องสงสัย
ล่าสุดหลังจากมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักสาเหตุการตายมาจากการหึงหวง และคาดว่าก่อนผู้ตายถูกฆ่า ได้มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับฆาตกรที่บันดาลโทสะจึงลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากบนตัวผู้ตายพบจอบ ซึ่งน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้ายผู้ตายวางอยู่บนศพที่นอนตะแคงคว่ำหน้า